Opus One สุดยอดไวน์จาก Napa Valley

Opus One “ตำนานที่สัมผัสได้”

หากพูดถึง Opus One แล้วละก็คงเป็นชื่อที่หลายๆคนคุ้นหูกันเป็นอย่างมาก เพราะเป็นหนึ่งในไวน์ที่นักสะสมและนักดื่มไวน์ทั่วโลกต่างอยากมีมาครอบครอง และถือเป็นหนึ่งในไวน์ที่ขายดีที่สุดในโลกอีกด้วย วันนี้เราจะมาเล่าจุดกำเนิดของพวกเขากัน

Opus one นั้นเกิดมาจาก การร่วมมือกันระหว่าง 2 มหาอำนาจในโลกแห่งไวน์ Robert Mondavi และ Baron Philippe de Rothschild จาก Chateau Mouton Rothschild

'

จุกเริ่มต้นของการร่วมมือกันระหว่าง 2 มหาอำนาจนี้มาจากคืนหนึ่ง ในปี 1970 ที่ทั้ง 2 พบกันใน Hawaii แต่ก็เป็นเพียงแค่ไอเดียคร่าวๆที่ยังไม่ได้มีการตกลงกันชัดเจน จนกระทั้งในปี 1978 ที่ Robert Mondavi ได้ไปเยี่ยม Rothschild ที่ Bordeaux ข้อตกลงของพวกเขาก็สำเร็จจนได้

โดย Vintage แรกที่พวกเขาออกมานั้นคือ vintage 1980 ซึ่งที่ขวดในตอนนั้นยังไม่ไ้แปฉลากไว้ว่า Opus one แต่เขียนเป็นคำว่า Napamedoc แทน จนมาถึง Vintage 1982 ที่พวกเขาเปลี่ยนชื่อกลายเป็น Opus One และโด่งดังเป็นพลุแตกมาจนถึงปัจจุบัน

'

Opus One นั้นเป็น Bordeaux Blend ที่จะมี Cabernet Sauvignon เป็นตัวชูโรง ผสมกันกับ Merlot Petit Verdot และ Cabernet Franc แต่ที่พิเษกว่าคือ Opus One นั้นจะมีการผสม Malbec ลงไปด้ยในปริมาณเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความ Complex ให้กับไวน์ โดยจะเติมไวน์ส่วนประกอบในเปอร์เซ็นต์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละปีตามคุณภาพเพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด แต่โดยส่วนมากแล้วจะมี Cabernet Sauvignon สูงมากกว่า 70% ในแทบทุก Vintage

องุ่นของ Opus One นั้นมากจากไร่ไวน์ที่ชื่อ Kalon ซึ่งว่ากันว่าเป็นที่ๆปลูกองุ่นได้ดีที่สุดใน Napa Valley เลยทีเดียว การเก็บเกี่ยวองุ่นของ Opus One นั้นใช้วิธีการเก็บด้วยมือเท่านั้น เพื่อให้องุ่นนั้นเสียหายน้อยที่สุด หลังจากเก็บเกี่ยวองุ่นนั้น Opus One จะมีการใช้เทคโนโลยีท่ีถูกสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษ โดยการใช้ Custom made Optical sorter เข้ามาช่วยในการคัดสรรองุ่น เพื่อจะได้มั่นใจได้ว่ามีเฉพาะองุ่นที่ดีที่สุดเท่านั้นในการนำไปผลิตไวน์นั้นเอง

'

ส่วนองุ่นที่ตกเกรดนั้นจะถูกนำไปผลิตเป็นไวน์ฉลากสองของ Opus One ซึ่งก็คือ Overture นั้นเองซึ่งวิธีการผลิตทุกอย่างเหมือนกันเเทบทุกขั้นตอนต่างกันเพียงแค่ เป็นองุ่นที่ตกเกรดของ Opus one เท่านั้น ซึ่ง Overture นั้นก็มีรสชาติดีไม่แพ้ Opus One เลย แต่ราคาต่างกันเกินครึ่งเลยทีเดียว

'

เนื่องจากความต้องการในตลาดโลกของ Opus One นั้นมีความต้องการมากกว่าการผลิตจึงส่ผลให้ Opus One นั้นเป็นที่ตามหากันแทบตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อให้คุณไปหาพวกเขาถึงไร่ไวน์เพื่อขอซื้อ คุณยังคงสามารถซื้อกลับบ้านได้เพียงแค่ 4-6 ขวดเท่านั้นต่อคน และราคาของ Opus One นั้นก็ไม่ได้แพงเกินเอื้อมหากเทียบกับไวน์จากฝรั่งเศสระดับ Top แล้ว Opus One นั้นราคาไม่ถึงครึ่งของพวเขาด้วยซ้ำ เพราะ Opus One นั้นมีเป้าหมายที่ต้องการให้ทุกคนได้มีโอกาสลิ้มรสไวน์ชั้นเลิศโดยทั่วกัน ไม่ใช่คนเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้น

Opus One 2015

Opus One นั้นเป็น Bordeaux Blend ที่จะมี Cabernet Sauvignon เป็นตัวชูโรง ผสมกันกับ Merlot Petit Verdot และ Cabernet Franc แต่ที่พิเศษกว่าคือ Opus One นั้นจะมีการผสม Malbec ลงไปด้ยในปริมาณเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความ Complex ให้กับไวน์ โดยจะเติมไวน์ส่วนประกอบในเปอร์เซ็นต์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละปีตามคุณภาพเพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด แต่โดยส่วนมากแล้วจะมี Cabernet Sauvignon สูงมากกว่า 70% ในแทบทุก Vintage

.

Opus One แต่ละ Vintage นั้นจะมีปริมาณขององุ่นแต่ละพันธุ์แตกต่างกันไปเพื่อให้คุณภาพของไวน์นั้นใกล้เคียงเดิมมากที่สุด และใน Vintage 2015 นั้น ประกอบด้วย Cabernet Sauvignon 81% Cabernet Franc 7% Merlot 6% Petit Verdot 4% และ Malbec 2% นั้นเอง ส่วนในการบ่มนั้นพวเขาบ่มในถังไม้โอ้คใหม่จากฝรั่งเศสเป็นเวลาถึง 18 เดือนด้วยกัน

.

Tasting note:

สี : สีแดงทับทิมเข้มสะท้อนแสงอ่อนๆสวยระยิบ

กลิ่น : เมื่อดมกลิ่นของ ผลไม้สีดำและขนมอบหอมขึ้นเตะจมูก ตามมาด้วยกลิ่นของชาดำ ที่หอมชวนลิ้มลองเป็นอย่างมาก

รส : เมื่อเข้าปากสัมพัสแรกที่ได้ก็คือความนุ่มละมุนของ tannin ที่นุ่มกำลังดีชวนให้ดื่มต่อได้อย่างง่ายดาย ไวน์มีความ creamy นิดๆกำลังดี ตามมาด้วยรสชาติของ พลัม และ Blackberry สุก หวานอมเปรี้ยวเป็นอย่างดี และจบท้ายด้วยกลิ่นของวนิลาและช๊อคโกแลต ได้อย่างลงตัวสุดๆ หากมีโอกาสอยากให้ลิ้มลองจริงๆ

.

อาหาร : ด้วยตัวไวน์นั้นเป็นไวน์ชั้นเลิศอยู่แล้ว จึงอยากให้ดื่มต่างหาก แต่ถ้าจะดื่มกับอาหารแล้วละก็ การดื่มด้วยกันกับเนื้อวัวหรือเนื้อแกะนั้นก็จะยอดเยี่มเช่นกัน

.

สอบถามราคา Add Line มาได้เลย!