กฎหมายควบคุมแอลกอฮอลล์ "ความฉ้อฉล บนความชอบธรรม"

กฎหมายควบคุมแอลกอฮอลล์ "ความฉ้อฉล บนความชอบธรรม"

หลายท่านคงได้รู้ถึงกฎหมายควบคุมแอลกอฮอลล์ต่างๆที่มีมากมายเหลือเกินในบ้านเรามาบ้างแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่ามีกี่ท่าน ที่รู้ว่ามีประเทศหนึ่งที่เคยมีกฎหมายทำนองนี้ออกมาบังคับใช้อยู่เหมือนกัน และเป็นหนึ่งในประเทศที่ยิ่งใหญ๋ระดับโลกอีกด้วย รวมไปถึง กฎหมายนี้ไม่มีอะไรซับซ้อนให้ตีความเลย มีเพียงใจความสำคัญว่า่ "เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย" และห้ามขายนานถึง 13 ปีเลยทีเดียว อ่านมาถึงตรงนี้แล้วหลายท่านคงพอนึกออกว่า ประเทศนี้คือ สหรัฐอเมริกานั้นเอง วันนี้เราจะมาเล่าเรื่องนี้ให้ฟังกัน

เมื่อวันที่ 17 มกราคม ค.ศ. 1920 มีชายพร้อมอาวุธ 6 คนปล้นตู้รถไฟชิคาโก แต่พวกเขาไม่ได้มาเพื่อเงิน นี่เกิดขึ้นไม่ถึงชั่วโมง หลังจากที่แอลกอฮอลล์ผิดกฎหมาย ทั่วทั้งสหรัฐอเมริกา โจรพวกนี้หนีไปพร้อมกับวิสกี้ มูลค่าหลายพันดอลลาร์ นี่เป็นผลที่ตามมาโดยทันที หลังจากประกาศกฎหมายห้ามผลิตและขายแอลกอฮอลล์

การห้ามผลิตและขายแอลกอฮอล์ ทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา เกิดขึ้นเพราะ มีขวบนการต่อต้านการดื่มสุราเกิดขึ้น โดยกลุุ่มนี้เชื่อว่า แอลกอฮอล์เป็นต้นต่อพื้นฐาน ของปัญหาต่าง ๆ เช่น ความยากจน และความรุนแรงในครอบครัว โดยหลายๆคนต่างให้เหตุผลว่า ด้านศาสนา กล่าวอ้างว่า เป็นอบายมุขและบาป ด้านหัวหน้างานก็บอกว่า ทำให้ความสามารถในการทำงานลดลง และอื่นๆอีกมากมาย จึงควรถูกแบนอย่างเด็ดขาด และได้โน้มน้าวให้รัฐบาลออกกฎหมายนี้ขึ้น

และในปี 1919 ในรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ฉบับที่ 18 เรื่อง ห้ามการผลิต ขาย และขนส่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดก็ได้ถูกกำหนัดขึ้น

การแก้ไขกฎหมายนี้มีผลหนึ่งปีหลังจากนั้น ภายใต้กฎหมายโวลสเตด เนื่องจากกฎหมายนี้ไม่ได้ห้าม การบริโภคส่วนบุคคล คนที่รวยจึงใช้โอกาสนี้ในการกักตุน ในขณะที่ร้านอาหารและบาร์ต่าง ๆ เร่งขายของที่เหลืออยู่ให้หมด แรงงานจำนวนหนึ่งสูญเสียอาชีพ เมื่อโรงกลั่น โรงต้ม และโรงงานไวน์ปิดตัวลง

ในขณะเดียวกัน กลุ่มขบวนการอาชญากรรม ก็เร่งทำงานเพื่อตอบสนองความต้องการแอลกอฮอล์ ทำให้เกิดตลาดมืดกำไรสูง ในการผลิต ลักลอบนำเข้า และขายสุราอย่างผิดกฎหมาย โดยมักจะทำงานร่วมกับ ตำรวจ รวมถึง เจ้าหน้าที่รัฐ ที่มีการติดสินบนจำนวนมาก แม้กระทั่งเป็นผู้วางระเบิดในการเลือกตั้ง อัยการรัฐอิลลินอยส์ในปี ค.ศ. 1928 เพื่อสนับสนุนฝ่ายการเมืองกลุ่มหนึ่ง เรียกได้ว่า เป็นยุครุ่งเรื่องของ มาเฟียเลยก็ว่าได้ ดังที่จะได้เห็นในหนัง Hollywood ในหลายๆเรื่อง

บาร์ผิดกฎหมายหลายหมื่นแห่ง ที่เรียกว่า "สปีกอีซี" ก็เริ่มเสิร์ฟแอลกอฮอล์ มีตั้งแต่เป็นบาร์ใต้ดินสลัว ๆ ไปจนถึงโรงเต้นรำขนาดใหญ่ คนทั่วไปยังสามารถผลิตแอลกอฮอล์ ได้ที่บ้านเพื่อใช้บริโภคเอง หรือได้รับอย่างถูกกฎหมายผ่านการสั่งยา จากแพทย์หรือเพื่อพิธีกรรมทางศาสนา

แต่เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้คนบริโภค แอลกอฮอล์ในระดับอุตสาหกรรม รัฐบาลได้สั่งให้ผู้ผลิต เติมสารเคมีที่เป็นอันตรายลงไป ซึ่งสุดท้ายทำให้มีผู้เสียชีวิต หลายพันราย เป็นเหมือนการเชือดไก่ให่ลิงดู

เนื่องจากแอลกอฮอล์ที่ผิดกฎหมาย ไม่ได้มีการควบคุมหรือเก็บภาษี ทำให้รัฐบาลนั้นขาดรายได้จำนวนมาก และหลังจากประกาศใช้ไปสักพัก ก็ชัดเจนแล้วว่าการห้ามเช่นนี้ ไม่ได้ทำให้เกิดการพัฒนาทางสังคม อย่างที่ได้คิดไว้ แต่กลับมีส่วนทำให้เกิดการทุจริตในการเมือง และก่อให้เกิดอาชญากรรม เพิ่มขึ้นอีกต่างหาก ประกอบกับจุดเริ่มต้นของภาวะเศรษฐกิจ ตกต่ำครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 1929 รัฐบาลต้องการเงินภาษีจากการขายแอลกอฮอล์อย่างมาก และเชื่อว่าการยกเลิกการห้ามนี้ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ

จนในปี ค.ศ. 1933 สภาคองเกรสได้ผ่าน การแก้ไขที่ 21 ทำให้กฎหมายนี้ถูกยกเลิกอย่างสมบูรณ์ และ สหรัฐอเมริกาในปัจจุบันนั้นถือเป็นหนึ่งในผู้ผลิตและผู้บริโภครายใหญ๋ที่สุดรายหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้

จะเห็นได้ว่าจากเรื่องราวการห้ามขายแอลกอฮอลล์ของสหรัฐอเมริกานั้นได้ส่งผลเสียมากกว่าผลดี ส่วนตัวผมเชื่อว่าเหรียญมักจะมีอยู่สองด้านเสมอ ไม่ว่าคุณจะห้ามอย่างไร สุดท้ายมันก็มีช่องทางในการแอบหรือหลบ ของมันอยู่ดี ฉะนั้นสิ่งที่ดีที่สุดคือควรบริโภคแต่พอดี และไม่เมาแล้วขับกันนะครับทุกคน ขายออนไลน์ไม่ได้แล้วอาจจะต้องออกไปซื้อเองนะครับ!

source : https://bit.ly/2VX36YQ

Comments (0)

Product added to wishlist
Product added to compare.