Italy 101 "อิตาลีประเทศผู้ผลิตไวน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก"

อย่างที่ทราบกันดีว่า ไวน์จากประเทศอิตาลีนั้นก็มีชื่อเสียงโด่งดังไม่แพ้ไวน์จากประเทศฝรั่งเศสเลย รวมอีกทั้งยังคงมีไวน์ต่างๆตามพื้นที่ที่แตกต่างกันไปอย่างมากมายอีกด้วย จึงบางครั้งทำให้คอไวน์อย่างเรานั้นสับสนไม่รู้ว่าจะซื้อไวน์จากที่ไหน หรือ เมืองไหนดี แล้วจะได้องุ่นพันธุ์ที่เราชอบหรือเปล่า วันนี้ทาง The Wine List จึงขออาสามาเล่าเรื่องไวน์อิตาลีให้อ่านกัน ใน “ Italian Wine 101”

‘

จุดเริ่มต้น

‘

ประวัติศาสตร์การดื่มไวน์ของอิตาลีนั้นมีมาอย่างยาวนาน เรียกได้ว่าพอๆกกันกับฝรั่งเศสประเทศแห่งไวน์ที่เราๆรู้จักกันเลย โดยวัฒนธรรมการดื่มไวน์ของอิตาลีนั้นเริ่มตั้งแต่สมัยกรีกเลย เนื่องจาก เมืองกาลาเบรียและซิซิลีนั้น เคยเป็นเมืองขึ้นของประเทศกรีซ จึงได้เริ่มนำวัฒนธรรมการดื่มไวน์เข้ามา และเริ่มแพร่หลายไปยังทั่วประเทศ ในช่วงราวศตวรรษที่ 7 ก่อน ค.ศ. ชาวอีทรัส (ชาวอิตาลีโบราณ) ได้เริ่มมีการปลูกองุ่นใน ทัสกานี และกระจายไปยังทั่วประเทศในที่สุด อย่างที่จะเห็นกันบ่อยๆในหน้าประวัติศาสตร์ว่า จักรวรรดิโรมันนั้น มักจะนำไวน์ให้ดื่มก่อนไปทำสงครามเพื่อให้ทหารนั้นมีกำลังและหึกเหิม เรียกได้ว่าเป็นของสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการทำสงครามเลย แต่อย่างไรก็ดีในช่วงสมัยที่จักรวรรดิโรมันล่มสลาย ไวน์ของอิตาลีก็ถูกทำลายลงไปเป็นจำนวนมาก เรียกได้ว่าแทบไม่เหลือไวน์ให้ดื่มเลย

‘

การกลับมา

ไวน์ของอิตาลีนั้นเริ่มกลับมาฟืนคืนชีพอีกครั้งในยุค เรอเนซองซ์ หรือช่วง คริสต์ศตวรรษ ที่ 13 นั้นเอง เริ่มมีการกลับมาปลูกองุ่นและผลิตไวน์กันอย่างแพร่หลายเช่นเดิม แต่ในยุคนั้น อิตาลียังไม่รวมกันเป็นประเทศเดียว ทำให้พื้นที่ในการทำธุรกิจไวน์นั้นยังคงอยู่เฉพาะในเขตของแต่ละเมืองเท่านั้น ซ้ำร้ายยังเกิดสงครามในการรวมประเทศขึ้น พร้อมๆกันกับเพลี้ยองุ่นที่รุกรามไปทั่วยุโรป ยิ่งไปกว่านั้นสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ยังจะมาเกิดขึ้นอีก ทำให้ธุรกิจไวน์ของอิตาลีนั้น ซบเซาแบบสุดๆ ภาพลักษณ์ของไวน์อิตาลีในตลาดโลกนั้น ถูกมองว่าเป็นเพียงแค่ไวน์ถูกๆ เพียงเท่านั้น จึงทำให้ตลาดโลกไม่ให้ความสนใจมากนัก และด้วยพื้นที่ปลูกไวน์ที่มีขนาดใหญ่ถึง 1.3 ล้านเฮกเตอร์ ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าการปลูกของฝรั่งเศสถึง 1.5 เท่า และยังมีนักธุรกิจไวน์อิตาลีมากกว่าฝรั่งเศสอีกถึง 2 เท่า ซึ่งอิตาลีนั้นยังเป็นผู้ผลิตไวน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย ยิ่งส่งผลให้ราคานั้นลดต่ำลงไปอีกเพื่อการเเข่งขันนั้นเอง ซ้ำร้ายชาวอิตลีที่เคยดื่มไวน์เฉลี่ยที่ปีละ 110 ลิตร ก็ดันดื่มลดไปเหลือเพียง 60 ลิตรต่อปี เพราะเริ่มหันไปดื่มแอลกอฮอลล์ชนิดอื่นมากขึ้นอย่างเช่น เบียร์ มากขึ้นจึงทำให้ไวน์อิตาลีหลายๆตัวต้องยอมจำใจเททิ้งเพราะการผลิตมามากเกินจะทำให้สินค้ายิ่งล้นตลาดและทำให้ราคาตลาดโดยรวมตกไปกว่าเดิมจึงส่งผลให้ในอดีตนั้นไวน์อิตาลีจึงถูกมองว่าเป็นแค่ไวน์ราคาถูกเท่านั้น

'

การปฎิรูป

ในอดีตแล้วชาวอิตาลีมักจะปลูกองุ่นร่วมกันกับผลไม้ชนิดอื่นๆ หรือ ปลูกองุ่นหลายพันธุ์รวมๆกัน ไวน์ที่ได้มาส่วนใหญ่จึงมักจเป้นไวน์ที่มีคุณภาพต่ำ แต่แล้วมาในปี 1970 ได้มีการปฎิรูปวงการไวน์อิตาลีครั้งใหญ่ จึงส่งผลให้เริ่มมีการปลูกแยกตามสายพันธุ์ ทำให้ไวน์มีคุณภาพดีขึ้น นอกจากนี้แล้ว ยังคงมีการนำเทคนิคการหมักบ่มไวน์เข้ามา โดยเฉพาะเทคนิคการควบคุมอุณหภูมิในช่วงทำการหมัก ทำให้ไวน์อิตาลีนั้นมีมาตรฐานที่สูงขึ้นในพริบตา และนอกจากนี้รัฐบาลนั้นยังคงมีการจัดระบบการรับรองคุณภาพไวน์อย่าง DOC ขึ้นมาด้วยโดยมีการแบ่งอันดับเป็น 4 ระดับ คือ

1. DOCG คือ ชั้นสูงที่สุดของอิตาลี หมายถึงไวน์ที่รับรองคุณภาพและเขตผลิต

2. DOC คือ การรับรองชื่อของเขตผลิต

3. IGT คือ เทเบิลไวน์ที่ผลิตจากเขตพิเศษ

4. VDT คือ เทเบิลไวน์ทั่วไป

โดยกฎระเบียบข้อบังคับนั้นมีเยอะแยะมากตั้งแต่ในการผลิตนั้นต้องใช้องุ่นพื้นเมืองเท่านั้น ห้ามผสม และ อื่นๆอีกมากมาย ถ้าผู้ใดฝ่าฝืน จาก DOCG อาจจะถูกปรับลงไปกลายเป็นระดับ VDT เลยก็ได้

ในอิตาลีนั้นสามารถปลูกไวน์ได้ถึง 20 แคว้นทั่วประเทศ และมีองุ่นกว่า 300 ชนิดคอไวน์จึงสามารถเลือกชิมได้อย่างหลากหลายมากๆ แต่กระนั้นก็ดี แคว้นที่โด่งดังที่สุด 2 แคว้นของอิตาลีก็คือ Piemonte และ Toscana นั้นเอง

'

Piemonte

ปีเยมอนเต แปลว่า ตีนเขา ซึ่งชื่อก็บ่งบอกว่าตีนเขา ลักษณะของแค้วนก็เลยอยู่ที่ปลายเทือกเขาแอลป์เช่นกัน ซึ่งในแคว้นนี้จะนิยมปลูกองุ่น Nebbiolo เยอะมาก และยิ่งไปกว่านั้นองุ่น Barbera จาก Piemonte ก็ยังได้ชื่อว่าดีที่สุดในอิตาลีอีกด้วย โดยใน Piemonte นั้นมี 2 เขตที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากๆในระดับโลก นั้นก้คือ Barolo และ Barberesco นั้นเอง

'

Toscana

ทอสกานา หรือ ทัสกานี ที่คนไทยเรียกกัน ถือเป็นเเคว้นที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากๆในไทย ในแคว้นนี้นั้นมีไวน์ชื่อดังออกมามากมาย โดยเฉพาะจากเขต Chianti นั้นเอง ที่โด่งดังมากในไทยและตลาดโลก

นอกจาก 2 แคว้นนี้แล้ว Veneto ก็ยังเป้อีกแคว้นที่มีชื่อเสียงโด่งดังไม่แพ้กัน โดยเฉพาะไวน์จากเขต Amarone ที่เรียกได้ว่าใครได้ดื่มก็ตดใจเพราะเอกลักษณ์โดดเด่น ที่แม้จะมีรสหวานต่กลับมีรสขมตามมาในตอนจบนั้นเอง

หลังจากการปฎิรูปที่ผ่านมาในปี 1970 นั้นจึงทำให้เราชาวไทยได้เห็นว่าไวน์อิตาลีคุณภาพเยี่ยมนั้นเริ่มเข้ามามีบทบาทในประเทศไทยเรามากขึ้นเรื่อยๆ และไม่ใช่เพียงในไทยเท่านั้นในตลาดโลกก็เริ่มยอมรับไวน์อิตาลีว่าเป็นไวน์ที่มีคุณภาพสูง และคุ้มค่าราคามากๆอีกต่างหาก โดยเฉพาะไวน์ระดับ Super Tuscan ที่ราคาแตะหลักหมื่นกันแล้วนั้นเอง ซึ่งหากพูดถึงราคากับคุณภาพแล้วละก็ต้องยอมรับจริงๆว่า อิตาลีนั้นยังคงคอนเซป ผลิตของดีแต่ราคาถูกออกมา เหมือนเช่นอดีตเลย เพราะคุณภาพไวน์ของเขานั้นเยี่ยมจริงๆ แต่ราคานั้นเอื้อมถึงสุดๆ หลังจากการปฎิรูปครั้งนี้ อิตาลีสามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า ตัวเองนั้นเป็นผู้ผลิตไวน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก หรือจะกล่าวว่า เป็น อาณาจักรแห่งไวน์ ก็ไม่เกินจริงเลย

ไวน์ อิตาลีทั้งหมด >> https://bit.ly/3akmAgK